รายชื่อเหยื่อเดิน 4 โลแม้ว
1.กระต่าย
2.มะตูม
3.วรวรรณ
4.เอกรินทร์
อาจจะชวนไ่ม่ทั่วถึงเพราะเป็นทริปฉุกเฉินจ้า
ออกเิดินทาง วันศุกร์ที่ 5 ก.พ. ตอนมืดๆ
ถึง อ.ฮอด ชม. 7 โมงเช้าแปรงฟัน(อย่างเดียว) และกินข้าว
เดินทางต่อไป อ.อมก๋อย เตรียมตัวไปหน่วยมูเซอ
ถึงหน่วยมูเซอหลังเที่ยงไปแล้น เพราะไกล๊ไกลและแวะซื้อเสบียงขึ้นดอยกับอาหารกลางวัน
บ่ายสองครึ่งเริ่มปฏิบัติการเดิน เดิน เดิน และเดิน
ในทริปได้บอกไว้่ว่า ระยะทาง 4 กิโลก็จะถึงลานสนามกอล์ฟช้าง @ ดอยม่อนจอง
แต่ทำไม 4กิโลมันเหมือนเดินซัก 8 กิโลหว่า เหนื่อยๆๆๆๆ แต่ถอยหลังไม่ได้แล้ว
และก็ได้รู้เฉลยจากเจ้าหน้าที่ว่า [size=150]การวัดระยะทางของภูเขาเค้าจะวัดกันเป็นระยะทางตรงๆ จากพื้นราบ แง๊ !!![/size]
มารู้ก็ตอนที่เดินเกือบจะถึงจุดพักแรมแล๊ววววว....
อากาศระหว่างที่เดินเข้า 4โลแม้วนั้นเจอแดดบ้าง มีต้นไม้บ้าง มีแดดแต่ไม่ร้อน เพราะว่าอากาศเย็นตลอดเวลา
ไม่มีซำให้พักแบบภูกระดึง
ไม่มีอาหารขายที่จุดพักแรม
ไม่มีห้องน้ำชักโครกให้้เข้า (มีแต่ส้วมซึมที่ทำไว้แก้ขัด แต่ไม่มีน้ำให้ตักราดมากนัก)
มีเต็นท์ให้นอนกับกองไฟอุ่นๆ
มีลำธารเล็กๆ ที่พี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าน้ำแร่ เย็นเจี๊ยบ และต้องใช้อย่างระวัง
เพราะเป็นจุดที่มีน้ำไว้กินไว้ใช้เพียงจุดเดียว ณ ที่ตรงนั้น
อาจจะมีช้างลงมาเยี่ยมข้างเต็นท์บ้างบางคืน แต่ช่วงที่ไปช้างไม่มา (คงไปดอยอื่นอยู่)
อากาศ ณ จุดกางเต็นท์พักแรม วัดตอน 4โมงเย็นได้ที่ 19 องศา ซึ่งก็โครตรหนาวมากๆ และลมแรง
อากาศตอนกลางคืนไม่ได้วัด เพราะสมาชิกทั้ง 4 หลับไปตั้งแต่ 2 ทุ่ม หลับเอาแรงเพื่อเดินกลับวันรุ่งขึ้น
พี่เจ้าหน้่าที่บอกว่าเมื่อคืนอากาศต่ำสุดก็ 12-15 องศา โหววว...หนาวๆๆๆๆ (คืนนี้ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเหมือนเดิม)
ตื่นเช้าเพื่อปีนขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและอากาศหนาวๆ ตอนเช้า
ตอนพระอาทิตย์ยังไม่ออกมา อากาศเย็นมากๆ ถุงมือและหมวกไหมพรมจำเป็นอย่างมาก
พระอาทิตย์ออกมาแล้วก็เ็ห็นลานทุ่งหญ้าสีทอง สวยมากกกก
แต่อากาศก็ยังไม่ร้อน และไม่มีทีท่าว่าจะร้อน
ถึงเวลาเก็บของและเดินกลับไปยังจุดเริ่มต้นเพื่อกลับบ้านกัน
ถึงจุดที่เป็นเนินเขาแล้วต้องกลับลงไปที่เดิม
สมาชิกเกือบทุกคนก็สงสัยว่า เราขึ้นมากันได้ยังไง
เพราะทางลงยากกว่าตอนขึ้นซะอีก
เดินใกล้จะถึงทางออกแล้วมะตูมก็เกิดอยากวัดพื้นดอยขึ้นมา เลยเกือบกลิ้งไป 1 ที ขาพลิกกลายเป็นเป๋ห่าวไปหลายวัน
เดินกลับมาถึงตีนดอยลูกแรก ก็นั่งโฟวีลกลับหน่วยมูเซอ 15 โล
กลับถึงหน่วยก็รีบเก็บของลงกระเป๋า เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา
เพื่อนนั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ (ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเช่นเคย อ่อ มีเอกรินทร์สู้ความหนา่วอาบอยู่ึคนเดียว)
ซาหรุปว่า มาชุดไหนก็กลับชุดนั้นถึงกทม. แต่สนุก เหนื่อย เมื่อย ประทับใจมากๆ
ทริปนี้ไม่มีซกมกนะค๊า เพราะว่าอากาศหนาวๆ เย็นๆ ทำให้ไม่มีกลิ่นเหงื่อมาให้กวนใจ อิิิอิ
ปอลอ...ถ้าสาววอขาลุยเกิดอาการหนาว เมื่อย เหนื่อย บอกให้เธอไปไหน เธอจะไม่ไปทั้งสิ้น อาการนอยด์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด 555
มาแปะรูปจากกล้องกระต่ายและกล้ิองวรวรรณให้ดูกันก่อน
ส่วนกล้องของมะตูมและกล้องของมะตูมที่หลอกให้เอกรินทร์เอาไปด้วยนั้น รอให้มะตูมมาโพสกันนะจ๊ะ
ปอลอ..ย่อภาพอย่างเดียว เพราะขี้เกียจๆ